The Digital Conversationalist

Andrea T Edwards

34 ขั้นตอนในการเตรียมตัวเพื่อสภาวะอุณหภูมิสูงถึงระดับที่ไม่สามารถอยู่ได้

Translated by Khun Fawn (Kasanan Suwanmongkol) – thank you!

You can find the English version here, and the Hindi version here. Click here for a version in Malay.

คุณทราบไหมว่าขณะนี้ฉันกำลังกลัวอะไรมาก ๆ  อุณหภูมิกระเปาะเปียก หรือดัชนีความร้อนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นคำที่มักใช้มากขึ้นโดยสื่อกระแสหลัก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในซีกโลกเหนือไม่ใช่สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดในขณะนี้ (แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก – โปรดดูบทความกี่ยวกับฟีนิกซ์และบทความเกี่ยวกับชนชาตินาวาโฮ) ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ อีกมาก ดังนั้น โปรดดูบล็อกประจำปีสำหรับข้อมูลล่าสุด

สิ่งที่กังวลมากกว่าในขณะนี้คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – อันที่จริงแล้วคือ ซีกโลกใต้ทั้งหมด – และมันน่ากังวลเพราะมีการพูดถึงเรื่องนี้น้อยมาก ไม่ว่าจะออนไลน์ สื่อมวลชน หรือจากรัฐบาล

เราจะเพิกเฉยต่อเรื่องความร้อนรุนแรงที่กำลังจะมาถึงจริงๆ หรือ และเราต้องเตรียมรับมือหรือไม่? ฉันหมายความว่าตอนนี้กำลังเป็นฤดูหนาวในอเมริกาใต้และอุณหภูมิเกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์ (38 องศาเซลเซียส)! ความร้อนที่จะมาถึงในฤดูร้อนของซีกโลกใต้ปีนี้ ทำนายได้ว่าอากาศจะร้อนขึ้นมากกว่าที่เราเห็นในปัจจุบัน ดังนั้นโปรดอย่าดำเนินการล่าช้า

น่าแปลกที่รายการข่าวปัจจุบันพูดถึงเรื่องนี้น้อยมากๆ โดยเฉพาะเมื่อออสเตรเลียกำลังจะเผชิญกับฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และนอกจากนี้ เมื่อฤดูร้อนมาถึงปรากฎการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นยาวนานพอสมควรเพื่อแสดงให้เห็นความรุนแรงอย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าทั้งไฟและความร้อนจะสูงขึ้นถึงระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประเทศของฉัน คาดว่าจะเริ่มเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม

ข้อมูลน่าสนใจ: สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย (BOM) ได้กล่าวว่า เอลนีโญยังไม่เริ่มขึ้น – ENSO Outlook เป็นระบบแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศมหาสมุทรในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน (El Niño–Southern Oscillation)

เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย:

นิวเซาท์เวลส์ได้รับการเตือนเรื่องอันตรายจากป่าไฟเนื่องจากการเติบโตของพืชที่อุดมสมบูรณ์ภายหลังจากเอลนีโญ

ออสเตรเลียเผชิญไฟป่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในฤดูร้อนหน้า เป็นผลที่รุนแรงมาจากภาวะโลกร้อน

สภาวะโลกร้อน: การทาสีถนน การเปิดให้บริการห้องสมุดนานขึ้นและการปลูกต้นไม้: ซิดนีย์ยังเตรียมพร้อมรับมืออากาศร้อนไม่ดีพอ

ในกลุ่มประเทศโลกใต้ ฤดูร้อนคือตั้งแต่กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม และปีนี้ (2566) เราได้สัมผัสอุณหภูมิกระเปาะเปียกในหลายประเทศเป็นครั้งแรก มันน่ากลัวและรุนแรงมาก

แน่นอนว่า อินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศได้สัมผัสอุณหภูมิกระเปาะเปียกเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาแล้ว และความร้อนที่กลับมากระหน่ำอีกครั้งในปี 2566 ก็ช่างโหดร้าย สำหรับไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และอื่น ๆ จะเจอเป็นครั้งแรกจึงเป็นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวมาก

แต่ปี 2024 จะยิ่งแย่ลง

เพื่อเตรียมความพร้อม เราต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ คาดหวังอุณหภูมิที่สูงกว่าที่เคยประสบในปี 2566 อย่างไรก็ตาม พบเรื่องท้าทายใหญ่เกี่ยวกับความร้อนในกลุ่มประเทศโลกใต้ – ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ใดพร้อมจะรับมือ

อย่างที่เราเห็น คนไร้บ้านที่อยู่อาศัยตามเต็นท์ทั่วเมืองหรือในรถยนต์ทั่วสหรัฐ (ที่ทุกข์ทรมานมาก) คนนับล้านในกลุ่มประเทศโลกใต้ อาศัยชายคาสังกะสีหรือถ้าโชคดีหน่อย ก็เป็นบ้านหลังคาสังกะสี เรามีสลัม ค่ายผู้อพยพ แคมป์คนงาน ค่ายชนพื้นเมือง และที่อยู่อาศัยหลากหลายอีกมากมายที่ไม่เข้ากันกับการเอาชีวิตรอดในสภาพอุณหภูมิกระเปาะเปียก การที่คนส่วนใหญ่จะอยู่ได้ในภูมิภาคนี้ก็ย่อมแปลว่าบ้านพวกเขาจะกลายเป็นเตาอบ และหากเราไม่เตรียมพร้อม คนนับล้านอาจเสียชีวิต

ความกังวลที่สำคัญที่สุดของฉันในภูมิภาคนี้คือ ทุกประเทศควรตื่นตัวให้มาก เร่งลงมือ และอยู่ในโหมดปรับตัว พร้อมรับมือกับความร้อนในทุกทางที่เป็นไปได้ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นแน่

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความร้อนกำลังมา มันจะกลายเป็นมหันตภัย และคนนับล้านจะทุกข์ทรมานหรือไม่ก็เสียชีวิต แต่ไร้ซึ่งเสียงสัญญาณ ซึ่งนั่นกลับทำให้กังวลมากเกินจะบรรยาย อย่าให้มันมากล้ำกราย – จงเตรียมพร้อม!

จึงเป็นเหตุผลที่ฉันทำเนื้อหาอีกแบบที่สั้นลง นี่คือสิ่งที่คุณทำได้ และสามารถทำร่วมกันภายในชุมชน นี่คือสิ่งที่คุณต้องผลักดันให้รัฐบาลตั้งเป้าและดำเนินการตอนนี้

อุณหภูมิกระเปาะเปียกคืออะไร?

ส่วนสำคัญในการเข้าใจอุณหภูมิกระเปาะเปียกหรือดัชนีความร้อนคือการวัดปริมาณความชื้นในอากาศที่รวมกับอุณหภูมิจริง ๆ = ดัชนีความร้อน เรื่องที่ท้าทายคือการที่ดัชนีความร้อนแตกต่างกันทุกที่เพราะขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้นในอากาศที่แตกต่างกันไปตามสถานที่ที่อยู่อาศัย ในกลุ่มประเทศโลกใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง อุณหภูมิจริง ๆ อาจต่ำมาก แต่เมื่อรวมกับความชื้น กลับกลายเป็นอันตราย ในขณะนี้เราทุกคนควรเข้าใจว่าในที่ที่เราอาศัยอยู่ อุณหภูมิอันตรายอยู่ในลักษณะใดและเคารพความจริงว่ามันจะยังคงร้อนขึ้นอีกนาน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสภาพอากาศบนโทรศัพท์มือถือของคุณ และเมื่ออากาศร้อนให้ดูที่ดัชนีความร้อนหรือ ‘รู้สึกเหมือน’ หรือ ‘รู้สึกจริง’ นี่คืออุณหภูมิกระเปาะเปียก อย่าลืมฟังคำเตือนจากหน่วยงานรัฐบาลด้วย

เรียนรู้ 3 ขั้นตอนของอาการโรคลมแดดและวิธีแก้ไขก่อนที่จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

เราทำอะไรได้บ้าง?

  1. ทำให้จริงจัง เลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงสุด สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติและไม่ให้ผิวถูกแดดเผา, พยายามอยู่ในที่ร่ม, ดื่มน้ำและเกลือแร่มากๆ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ) และใส่ใจสภาวะร่างกายของคุณ หากสภาพแวดล้อมในบ้านไม่ปลอดภัยให้ไปยังที่ที่มีเครื่องปรับอากาศโดยเร็วที่สุดและทราบว่าอยู่ไหนก่อนที่อุณหภูมิจะสูงขึ้น อย่าลืมตรวจตราคนในครอบครัวและชุมชนของคุณโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยเพียงลำพัง ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้คุณควรพูดคุยกับสถานที่ทำงานเสียก่อนเพื่อให้คุณมีตัวเลือกในการทำงานที่ยืดหยุ่นเมื่ออุณหภูมิกระเปาะเปียกเล่นงานและกฎข้อบังคับที่ถูกกำหนดไว้หากคุณทำงานนอกอาคาร – ไม่มีกฎความปลอดภัยระดับชาติใด ๆ ที่ปกป้องคนงานในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง
  2. สื่อสารแบบเทคโนโลยีต่ำ – คนนับล้านไร้โอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล – สิ่งที่เราเห็นได้ในช่วงการระบาดของโรคระหว่างการล็อกดาวน์แม้แต่ในประเทศที่ร่ำรวย ทุกชุมชนต้องมีหน้าจอสาธารณะหรือกระดานประกาศที่มีการแจ้งเตือนอุณหภูมิสูงต่ำอย่างสุดโต่ง เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความเสี่ยง สื่อในพื้นที่ต้องช่วยแชร์ข้อมูลนี้ด้วย ร่วมผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
  3. อัพเกรดเครื่องปรับอากาศของคุณ – ปรับปรุงเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากคุณโชคดีพอที่จะอาศัยในบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรตรวจสอบว่าเครื่องสามารถทำงานเต็มประสิทธิภาพสูงสุด ให้ช่างซ่อมบำรุงทุก ๆ 3 เดือน หากยังไม่มีเครื่องปรับอากาศและสามารถจ่ายได้ ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยในห้องหนึ่งใดห้องหนึ่งภายในบ้าน แม้จะเป็นบ้านเช่าก็ตาม คุณควรซื้อเครื่องคุณภาพสูงสุดที่คุณสามารถจ่ายได้ เนื่องจากรุ่นราคาถูกมักปล่อยก๊าซ – อันที่จริง เครื่องรุ่นนี้ไม่ควรนำออกมาจำหน่ายเลย
  4. ระบุพื้นที่เย็นของครอบครัว – จากตารางพลังงาน อุณหภูมิสูงทำให้ต้องการใช้พลังงานสูง ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลและบริษัทพลังงานต้องออกแถลงการณ์ลดการใช้พลังงาน – ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายเมื่ออากาศร้อนขึ้นมา ผู้คนในตะวันตกมักอาศัยในบ้านหลังใหญ่ที่มีเครื่องปรับอากาศหลายตัว ดังนั้นเป็นโอกาสที่เหมาะแก่การเลือกห้องหรือพื้นที่ขนาดเล็กในบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้คุณสามารถใช้ในช่วงอากาศร้อน เก็บฟูกออกในคืนที่ร้อนและนอนร่วมกันในพื้นที่ที่เย็น วิธีนี้จะช่วยลดการบริโภคพลังงาน ต้นทุนพลังงานต่อหน่วย และหวังว่าจะเพียงพอให้ทุกคนได้มีความสุขกับการใช้ประโยชน์จากเครื่องปรับอากาศในสถานการณ์อากาศร้อน ตามรายงานในสหรัฐฯ ความเห็นแก่ตัวและการใช้พลังงานมากเกินไปสำหรับตัวเอง หมายถึงทุกคนจะสูญเสียความสามารถที่จะเย็นได้อย่างน่าเป็นห่วง
  5. ทาสีขาว – มาตรการที่รวดเร็วและค่าใช้จ่ายต่ำสุดคือการทาหลังคาสีขาว เช็คดูสีทาที่ขาวที่สุดในโลกซึ่งสะท้อนแสง 98.1% และอาจช่วยต่อสู้กับสภาพอากาศได้ การทาสีขาวมีประสิทธิภาพมากที่สุด พอจะลดความต้องการในการใช้เครื่องปรับอากาศได้เลย ซื้อสีขาวเท่าที่จะสะท้อนแสงได้มากที่สุดแล้วเริ่มงานทาสีบนหลังคาทุกที่ อย่าลืมทาให้หนาๆ มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดโลกร้อน การใช้สีที่สว่างที่สุดและกระบวนการระบายความร้อนเพิ่มเติมด้วยลูกแก้วแตก สำหรับแคมป์คนงาน ค่ายผู้อพยพ ค่ายชนพื้นเมืองฯลฯ รัฐบาลหรือธุรกิจที่รับผิดชอบสำหรับค่ายเหล่านี้ต้องเตรียมพร้อมและพิจารณาเรื่องร่มเงาและการปลูกต้นไม้ด้วย         
  6. สร้างสีเขียว – เราสามารถปลูกต้นไม้บนหลังคาได้ ถึงแม้ในเขตร้อนชื้นอาจดึงดูดพวกงู หนู และสัตว์อื่นๆ ได้ – ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลังคาสีขาวอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ตามรายงานของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) การทำสวนบนอาคารในเมืองเป็นการโอกาสที่ยิ่งใหญ่และรวมถึงสิ่งต่าง ๆ เช่น กำแพงต้นไม้ สวนหลังคาและระเบียงสีเขียว นี่เป็นหัวใจสำคัญเพราะไอน้ำที่ระเหยออกจากพืชในกระบวนการสังเคราะห์แสง จะช่วยระบายความร้อนให้สิ่งแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง ตัวอย่างเช่น ระหว่างบริเวณที่มีต้นไม้โตและบริเวณที่ไม่มีเลย อุณหภูมิแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่ 10 องศาเซลเซียส ดังนั้นการสร้างสวนในชุมชนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
  7. ดูแลคนยากจนและผู้ที่เดือดร้อน – เหมือนที่พบเห็นทั่วโลก คนยากจนต้องประสบความทุกข์ทรมานมากที่สุดและเราต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขาเตรียมความพร้อม หากคุณมีฐานะ อาจลงทุนในการช่วยเหลือชุมชนให้พร้อม ไม่ว่าจะสร้างที่พักเพื่อหลบร้อน หรือปลูกต้นไม้ในชุมชนที่ยากจนเพราะพวกเขามีต้นไม้น้อยหรือไม่มีเลย เราต้องเตรียมพื้นที่ในชุมชนล่วงหน้า (พื้นที่ที่สามารถระบายความร้อน) เพื่อให้ผู้คนไปที่นั่นได้ในช่วงอากาศร้อนสุดๆ และควรให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง การคำนึงถึงสิ่งที่เราจะทำเพื่อผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องเป็นประเด็นหลัก และต้องพิจารณากันใหม่เพื่อชุมชน ตั้งแต่ชั้นสูงไปจนถึงรากหญ้า และเรื่องการกำจัดเหตุที่ก่อให้เกิดความร้อน หรือรู้จักกันในนาม ปรากฏการณ์เกาะร้อน – คอนกรีต แอสฟัลต์ และเกาะความร้อนเมืองก่อวิกฤติให้กับคลื่นความร้อนอย่างไร
  8. ปิดม่าน, ติดฟิล์มบนหน้าต่าง – หากคุณมีหน้าต่างบานใหญ่เมื่อดัชนีความร้อนเริ่มเกิน 50 องศาเซลเซียส ให้ปิดม่านลงและหากยังไม่มีม่าน อาจถึงเวลาต้องลงทุนซื้อม่านที่คุณสามารถจ่ายได้มากที่สุด คุณยังสามารถติดฟิล์มกรองแสงบนหน้าต่างเพื่อลดผลกระทบจากความร้อนภายในบ้านได้อีกด้วย
  9. อัพเกรดฉนวน – ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีฉนวนเหมาะสมพอจะรักษาความเย็นภายในบ้านและป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้ามาในบ้าน ฉนวนยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือหากคุณทาหลังคาสีขาว ก็จะยิ่งช่วยให้ฉนวนทำงานได้ดีขึ้นไปอีก
  10. กักตุนน้ำ – หากระบบไฟฟ้าของคุณพัง คุณจะสูญเสียน้ำไหม? เราสูญเสีย! หากคุณเป็นเช่นเดียวกัน เก็บน้ำให้เพียงพอสำหรับใช้ในครอบครัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น นอกจากนี้ ควรเตรียมบรรจุน้ำที่ปิดสนิทเพื่อใช้ระบายความร้อนในร่างกาย หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการระบายความร้อน (เมื่อตัวเลือกมีน้อย) คือการแช่ผ้าขนหนูและคลุมตัวเอาไว้
  11. ลงทุนในเครื่องมือที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า – ไม่ว่าจะเป็นพัดลมพกพา ไฟ หรืออุปกรณ์ใดที่ช่วยให้รู้สึกเย็น/ปลอดภัย นี่เป็นเวลาที่ดีในการไตร่ตรองเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการเมื่อไฟดับและสิ่งที่ช่วยให้คุณอยู่รอดได้ สิ่งใดที่สามารถช่วยคุณได้? พัดลมที่ใช้แบตเตอรี่? เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบมือถือสำหรับชาร์จโทรศัพท์และอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ? นี่เป็นเวลาที่เหมาะจะทบทวนถึงสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้คุณพร้อม
  12. ระวังยุง – การคุกคามของเอลนีโญทำให้โรคติดต่อที่เกิดจากยุงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกและโรคไข้มาลาเรีย ขณะที่เราต้องรักษาสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุง แต่ก็ไม่อาจจะควบคุมสภาพแวดล้อมขนาดใหญ่ได้ ดังนั้น ถึงเวลาต้องลงทุนซื้อมุ้งและวิธีการป้องกันอื่น ๆ ด้วยหรือไม่? เรายังต้องถามรัฐบาลว่าสามารถทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อป้องกันประชาชนจากโรคติดต่อนำโดยยุงและให้ความรู้แก่ประชาชนสำหรับวิธีป้องกันยุงได้อย่างไร – สิงคโปร์เก่งมากในเรื่องนี้ จงนำเสนอร่วมกับผู้นำชุมชนและลงคะแนนเสียงให้ดำเนินการ
  13. ปลูกสวน – เราเห็นการสูญเสียผลผลิตพืชในวงกว้างเนื่องจากความร้อนจัด และนี่เป็นปัญหาที่กำลังกระจายไปทั่วโลก ตัวอย่างเช่น การผลิตข้าวลดลง โดยอินเดียเพิกถอนการส่งออกข้าวบางส่วน และเมื่ออุณหภูมิเกิน 35 องศาเซลเซียส (ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในปี  2566) การเจริญเติบโตของข้าวจะเริ่มล้มเหลว ซึ่งหมายความว่าผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง – ขึ้นราคาและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความอดอยาก ดังนั้น กรุณาปลูกสวนและชวนเพื่อนบ้านให้ทำเช่นกัน มันอาจช่วยให้คุณรอดและด้วยเหตุที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานอาหาร – ซึ่งกำลังแย่ลงและมีแต่จะแย่ลงไปเรื่อยๆ – วิธีใดก็ตามที่เราสามารถเป็นอิสระได้ในปีต่อๆ ไปจะช่วยให้เราและครอบครัวของเราอยู่รอดได้
  14. ทำให้นอกบ้านเย็นลง – เราต้องการทางเลือกในการระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เพราะจะดีกว่ามากสำหรับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะหลายประเทศในซีกโลกใต้ ซึ่งใช้พลังงานจากถ่านหิน – พลังงานเชื้อเพลิงที่สกปรกที่สุด แต่นี่ก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนในวิธีแก้ปัญหาโดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า หนึ่งในความท้าทายสำคัญของความร้อนรุนแรงคือ เมื่ออุณหภูมิเกิน 50 องศาเซลเซียส ระบบไฟฟ้าเริ่มล้มเหลวเนื่องจากอุณหภูมิสูงมากและมีความต้องการใช้มากเกินไป ซึ่งก็ได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว สองตัวอย่างวิธีระบายความร้อนนอกบ้านโดยไม่ใช้พลังงาน ได้แก่ แอร์ไม้ไผ่ระบายความร้อนด้วยกระบวนการแอเดียแบติกจาก Yankodesign และ CoolAnt จาก Beehive ซึ่งทำจากดินเผา วิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ใช้ลมและน้ำ เราต้องการวิธีแบบนี้ในแคมป์คนงาน ค่ายชนพื้นเมือง ค่ายผู้อพยพ สลัม ตลาด งานเทศกาล งานทางศาสนา และอื่น ๆ รวมถึงพื้นที่หลักที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวมารวมตัวกัน
  15. พัดลมไอน้ำพลังแสงอาทิตย์ – พัดลมไอน้ำระดับอุตสาหกรรมอาจมีความสำคัญต่อการระบายความร้อนบนผิวหนังในอุณหภูมิกระเปาะเปียก อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีนี้ได้ผล จะต้องพิจารณาการนำพัดลมเหล่านี้ออกจากแผงโซลาร์เซลล์อิสระ เพื่อที่ว่าพัดลมเหล่านี้ไม่จะหยุดทำงานเมื่อระบบไฟฟ้าดับลง
  16. สถานีทำความเย็นส่วนกลาง – เราต้องสร้างสถานีทำความเย็นทุกที่ สำหรับเมืองต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ห้องสมุด หรือสถานที่สักการะ เมื่ออุณหภูมิสูงเกินจะอยู่อาศัยนี่จะเป็นอีกทางเลือก แผนนี้ต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียด ตั้งแต่การจัดพื้นที่ไปจนถึงการจัดหาน้ำ อาหาร และแม้แต่ที่หลับนอน ภายนอกเมืองและชุมชนจำเป็นต้องจัดตั้งสถานีทำความเย็นในหมู่บ้านและชุมชนท้องถิ่น ระบุสถานที่สักหนึ่งหรือสองแห่งซึ่งใหญ่พอสำหรับทุกคนในฐานะสถานีทำความเย็นประจำท้องถิ่น และต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพร้อมที่จะรองรับชุมชนเมื่อจำเป็น ซึ่งในหลายส่วนของโลกตอนนี้ก็ล้วนต้องการ นี่อาจเป็นการดำเนินการที่นำโดยชุมชน สถานีทำความเย็นต้องสามารถเข้าถึงได้ในระยะทางสั้นๆ และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  17. อย่าลืมเพื่อนสัตว์ของเรา เราต้องไม่ลืมสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงของเราไปจนถึงสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เราสามารถดูแลพวกมันให้ปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะรอดจากอุณหภูมิเหล่านี้ได้หรือไม่? หลังคาสังกะสีเป็นร่มเงาเดียวที่จะฆ่าสัตว์ได้เร็วเท่ากับฆ่ามนุษย์ แล้วเราจะเตรียมอะไรได้บ้าง? อ่านเพิ่มเติม: ทำความคุ้นเคยกับนมข้าวโอ๊ตเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำลายอุตสาหกรรมนม อย่าลืมดูแลสัตว์เลี้ยงของเราด้วย – อุณหภูมิไหนที่ร้อนเกินกว่าจะพาสุนัขไปเดินเล่นได้? ต่อไปนี้คือวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ปลอดภัยในช่วงคลื่นความร้อน
  18. เราจะปกป้องสัตว์ป่าได้อย่างไร? อาจเป็นความกังวลที่หนักที่สุด เพราะถึงแม้เราจะสามารถมีชีวิตรอดได้ แต่จะทำอะไรเพื่อสัตว์ป่าได้บ้าง เราสามารถจัดพื้นที่สำหรับนกและสัตว์ป่าอื่นๆ ให้เข้าถึงน้ำ อาหารและร่มเงาได้หรือไม่? เราควรคิดถึงโครงสร้างเหมือนเรือนนอกที่ปกป้องสัตว์ป่าในประเทศ/ภูมิภาคของเราเพื่อให้พวกมันมีโอกาสสู้ต่อหรือไม่? เราต้องดูแลสัตว์ป่าของเรา มิฉะนั้นการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการสูญพันธุ์จะตามมา และอย่าลืมว่าการอยู่รอดของระบบนิเวศเหล่านี้ก็มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของมนุษย์เช่นกัน เราสามารถวางแผนที่จะช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แมลง พืช ฯลฯ ได้อย่างเพียงพอหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสหยุดสิ่งอื่นใดที่สูญพันธุ์ไปจากการเฝ้าระวังของเรา
  19. การลงทุนด้านพลังงานอิสระ – เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป ความต้องการสูง รวมถึงความร้อนที่มากเกินไป จะทำให้โครงข่ายไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งมันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ในการแก้ปัญหานี้หากคุณมีฐานะ ให้ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมสำหรับที่อยู่ของคุณเพื่อให้เป็นอิสระจากโครงข่ายไฟฟ้า อีกทั้ง ช่วยลดความต้องการใช้พลังงานจากระบบไฟฟ้าทุกที่เท่าที่จะเป็นไปได้  สำหรับชุมชนที่บุคคลทั่วไปไม่สะดวกลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม ให้มารวมตัวและตกลงกันว่าควรจัดตั้งแหล่งพลังงานและเครื่องปรับอากาศอิสระที่ใด เพื่อให้แน่ใจว่าเพียงพอสำหรับรองรับทุกคนในชุมชน สิ่งนี้จะช่วยให้ทั้งชุมชนมีสถานที่พักผ่อนและอาจช่วยชีวิตผู้คนได้ หากชุมชนสามารถระดมทุนสนับสนุนสิ่งนี้ร่วมกัน โอกาสเตรียมพร้อมรับมือกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นก็ยิ่งมากขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะรอช้า อุณหภูมิดังกล่าวได้มาถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศทางใต้แล้วในปี 2566 และจะสูงขึ้นในปี 2657 หากคุณมีฐานะ กรุณาช่วยลงทุนเพื่อชุมชนของคุณด้วย
  20. กีฬา เทศกาล การเล่น – สำหรับการชุมนุมทางการเมือง พิธีทางศาสนา หรือแม้แต่การแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ หากเกินอุณหภูมิกระเปาะเปียกหรือดัชนีความร้อน ผู้จัดงานควรจะยกเลิกกิจกรรมเหล่านี้ หรือหากเป็นไปได้ ให้ย้ายเข้าในอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ การทาสีหลังคาเป็นสีขาว สวนหลังคา อุปกรณ์ทำความเย็นกลางแจ้ง ต้นไม้ และร่มเงา ฯลฯ ล้วนเป็นหัวใจสำคัญสำหรับอาคารสาธารณะและสถาบัน โปรดใส่ใจกับความร้อนรุนแรงหากจัดกิจกรรมกลางแจ้งใดๆ เนื่องจากการเพิกเฉยต่ออุณหภูมิกระเปาะเปียกส่งผลให้ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง หากต้องการมีชีวิตรอด ควรเรียนรู้สิ่งที่คุณต้องทำ และอย่าลืมแบ่งปันสิ่งนี้กับครอบครัวและชุมชนในวงกว้าง
  21. การเตรียมความพร้อมของโรงเรียน – โรงเรียนต้องคำนึงถึงอุณหภูมิกระเปาะเปียก และต้องแน่ใจว่านักเรียนจะไม่อยู่ในความร้อนเช่นนี้เป็นเวลานาน ห้องเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต้องจัดลำดับความสำคัญในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ หากเป็นไปได้ รวมถึงการติดตั้งแหล่งพลังงานอิสระ (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์) เพื่อให้นักเรียนปลอดภัย โรงเรียนก็สามารถเป็นพื้นที่ระบายความร้อนให้กับชุมชนได้เช่นกัน
  22. ยอมรับสถาปัตยกรรมการทำความเย็นแบบดั้งเดิม – เราต้องคิดใหม่ว่าจะสร้างอย่างไรเพื่ออนาคตที่กำลังจะมาถึง และยอมรับเทคนิคในอดีต ซ่อมแซมสิ่งที่เสียหาย ตัวอย่างเช่น ในภูมิภาคเอเชียและชายฝั่งตะวันตกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือสถาปัตยกรรมเปอรานากัน ซึ่งได้รับการออกแบบให้เย็นและอากาศไหลเวียนก่อนที่จะมีการคิดค้นไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศเสียอีก ความท้าทายคือเมื่อคุณเยี่ยมชมพื้นที่เหล่านี้ในวันนี้ คุณลักษณะหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เช่น ส่วนโค้งระหว่างอาคารต่างๆ จะถูกปิดกั้นและปกคลุมอยู่ นั่นแปลว่าการไหลเวียนของอากาศน้อยลง เราจำเป็นต้องเปลี่ยนกลับและดูจะเป็นงานที่ค่อนข้างง่าย เรายังต้องดูการติดตั้งม่านบังแดดในพื้นที่สาธารณะทุกแห่งด้วย ต้นไม้และพืชก็สำคัญเช่นกัน บทความดีๆ: เมืองต่างๆ ในยุโรปพึ่งพาวิธีเก่าแก่เพื่อรักษาความเย็นในขณะที่คลื่นความร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้น
  23. คิดใหม่เกี่ยวกับงานกลางแจ้ง – คนส่วนใหญ่ที่จะได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิกระเปาะที่รุนแรงคือคนงานกลางแจ้ง และคนเหล่านี้มักจะเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างแหล่งอาหาร ก่อสร้าง และให้ความบันเทิงแก่โลก พวกเขายังมีอิทธิพลน้อยที่สุดและก็จะยังทำต่อไปเพราะพวกเขาไม่มีทางเลือก เราต้องทบทวนเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะหลีกเลี่ยงความร้อนได้ รวมถึงวางแผนสำหรับสถานที่ที่เย็นกว่าซึ่งพวกเขาสามารถไปได้เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป จำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของธุรกิจจะต้องรับผิดชอบในการรับรองความปลอดภัยของคนงาน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นทุกที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนงานเป็นชาวต่างชาติหรือแรงงานข้ามชาติที่ไม่มีเอกสาร นี่คือข่าวล่าสุด – ความร้อนสามารถคร่าชีวิตงานได้ และคนงานเหล่านี้กำลังจะตาย ประเภทงานกลางแจ้งที่ควรพิจารณา:
    • เกษตรกรรม การทำฟาร์ม
    • การก่อสร้างทั้งหมด
    • การคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลัก (คนขับแกร็บ) และยานพาหนะสำหรับการท่องเที่ยว เช่น รถตุ๊กตุ๊ก เราได้เห็นพนักงานขับรถส่งสินค้าเสียชีวิตในสหรัฐฯ ช่วงฤดูร้อนนี้
    • ตลาดกลางแจ้ง – ตั้งแต่ผักและผลไม้ อาหารทะเล เสื้อผ้า ไปจนถึงการท่องเที่ยว
    • ชาวสวนและคนทำงานบ้านกลางแจ้ง
    • พนักงานฝ่ายบริการที่มีบทบาทหลักกลางแจ้ง รวมถึงพนักงานในร้านอาหาร
    • ภาคการท่องเที่ยว เช่น แคดดี้ ครูสอนดำน้ำ กีฬาทางน้ำ นักโฆษณา และอื่นๆ
    • เจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉิน
  24. การล่มสลายของโครงสร้างพื้นฐาน – โครงสร้างพื้นฐานของเราไม่พร้อมสำหรับความร้อนจัด และความท้าทายครั้งใหญ่ในซีกโลกใต้ก็คือโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงอยู่เหนือพื้นดิน เนื่องจากราคาถูกกว่าการติดตั้งใต้พื้นดินอย่างมาก ซึ่งก็หมายความว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะพังทลายเนื่องจากความร้อนหรือได้รับความเสียหาย (จากพายุ ฯลฯ) ดังนั้น มาตรการที่สำคัญคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นและสภาพอากาศสุดขั้วอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ดังที่เห็นในอิตาลีปีนี้ แม้แต่โครงสร้างพื้นฐานใต้ดินก็ยังมีความเสี่ยงต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น เราต้องพิจารณาว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร ยกตัวอย่างเช่น เมื่อถนนเริ่มละลาย เราจะออกจากบ้านไม่ได้ นั่นหมายความว่าอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพิจารณาเรื่องอาหาร น้ำ เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ และอื่นๆ  ยกประเด็นนี้ให้รัฐบาลได้เห็น
  25. การเตรียมพร้อมสำหรับบริการฉุกเฉิน – เราต้องคำนึงถึงความสามารถของเจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉินในการทำให้โครงสร้างพื้นฐานทำงานท่ามกลางความร้อนจัดได้ เมื่ออุณหภูมิถึงจุดสูงสุด ยานพาหนะฉุกเฉินจะยังขับได้หรือไม่ เนื่องจากยานพาหนะที่ร้อนจัดและถนนที่ละลายอาจกลายเป็นปัญหา และหากพวกเขาเข้าไปในพื้นที่ได้ จะต้องใช้เสื้อผ้าอะไรบ้าง เช่น ชุดทำความเย็น? เราต้องเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้ตอนนี้ ในสหรัฐฯ พบเหยื่อที่ถูกไฟไหม้ระดับ 2 และ 3 ล้นหน่วยที่เกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากพื้นดินร้อนมากถึง 180องศาฟาเรนไฮต์ อย่างไรก็ตาม สำหรับหน่วยแพทย์เอง ก็ประสบกับแผลไหม้ที่หัวเข่าอย่างรุนแรงขณะดูแลผู้ป่วย เราต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้
  26. ที่จอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ – ความร้อนรุนแรงในปี 2566 ทำให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องโดนย่างกลางแดดจัด และสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ หากจอดในที่ร่มไม่ได้ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ คุณทำให้รถเย็นลงไม่ได้หากไม่มีเครื่องปรับอากาศเมื่อต้องเผชิญกับความร้อนระดับนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างโรงจอดรถทุกที่ ซึ่งไม่ใช่วิธีปฏิบัติทั่วไปในประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีในการศึกษาและเรียนรู้แรงบันดาลใจจากประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส ซึ่งกำลังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของที่จอดรถขนาดใหญ่ทุกแห่ง สำหรับโรงพยาบาลทั่วภูมิภาค การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนที่จอดรถยนต์และจักรยานยนต์สามารถจ่ายพลังงานให้กับโรงพยาบาลและชุมชนโดยรอบได้
  27. การรักษาความปลอดภัยของบริการด้านสุขภาพ – อะไรสำคัญกว่าบริการด้านสุขภาพ? เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันยังคงทำงานต่อไป? เราเห็นโรงพยาบาลล้นหลามในประเทศที่ร่ำรวยแล้ว แล้วประเทศกำลังพัฒนาจะเตรียมตัวอย่างไร? ก่อนอื่น เราต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดหาพลังงานที่เป็นอิสระและยั่งยืนซึ่งมีกำลังเพียงพอที่จะใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด เช่น โรงพยาบาลและผู้ให้บริการฉุกเฉินทุกราย แหล่งพลังงานส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือโครงข่ายไฟฟ้าที่เสี่ยงจะพัง ตามมาด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล คำถามคือ เมื่อใดที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะร้อนเกินไป ตามบทความนี้ อุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และความชื้นก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หากความร้อนและความชื้นเกินความสามารถของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในการทำงานหรือเชื่อถือได้ เราต้องเข้าใจว่าขณะนี้คืออะไรและแก้ไขให้เร็วเพื่อแทนที่ด้วยตัวเลือกที่เหมาะสมมากขึ้นสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้ ยังต้องแน่ใจว่ามียา อาหาร และน้ำเพียงพอในการก้าวผ่านคลื่นความร้อนที่แผ่ขยายออกไป รวมถึงมีเจ้าหน้าที่เพียงพอจะรับมือกับคลื่นความร้อน ผู้นำโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ต้องถามคำถามว่า “โครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบันจะทำงานภายใต้ความร้อนที่นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศคาดการณ์ไว้ได้หรือไม่ เราพร้อมเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหมดในสถานการณ์ที่ยืดเยื้อหรือไม่?
  28. สถานพยาบาลในพื้นที่ – ข้อควรพิจารณาอีกประการหนึ่งคือจำนวนผู้คนที่ต้องการการรักษาพยาบาลอาจพุ่งกระฉูดได้ ดังที่เราเห็นในซีกโลกเหนือ ในทำนองเดียวกัน หากผู้คนไม่สามารถเดินทางไปยังศูนย์การแพทย์ได้ (รถร้อนเกินไปที่จะสตาร์ท ถนนที่ไม่สามารถขับขี่ได้) หรือพวกเขาอยู่ไกลเกินไป (ทุกนาทีมีค่าเมื่อคุณเข้าสู่ภาวะลมแดดระยะที่ 3) เราจำเป็นต้องวางแผนวิธีรับมือ ด้วยสิ่งนั้นตอนนี้ เรามาเตรียมพร้อมและตั้งค่าบริการในพื้นที่กันดีกว่า จึงต้องตกลงเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินจากความร้อน รวมถึงวิธีที่ฝึกอบรมสมาชิกในชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้การรักษาพยาบาลฉุกเฉินเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถไปโรงพยาบาลหรือคลินิกได้ ในการเตรียมตัว เราต้อง
    • ระบุจำนวนชุมชนในแต่ละประเทศ
    • เสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการฝึกอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในการดูแลรักษาโรคลมแดดและให้ความรู้แก่ชุมชนว่าใครก็ตามที่เป็นโรคลมแดดควรรักษาก่อน
    • พิจารณาว่าอุปกรณ์และยาใดบ้างที่จำเป็นในสถานประกอบการแต่ละแห่ง และเริ่มเก็บสต๊อกให้เข้าที่และปลอดภัย
    • ติดตั้งแหล่งพลังงานอิสระเพื่อให้สิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่นเหล่านี้ใช้การได้ ไม่ว่าจะร้อนแค่ไหนก็ตาม
    • จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ทันที เตรียมไว้ก่อนเมื่อจำเป็นต้องใช้
    • ลงทุนซื้อถุงบรรจุศพ จากที่ได้เห็นในสหรัฐฯ แล้วว่าเมื่อบรรจุด้วยน้ำแข็ง จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่เข้าสู่ภาวะโรคลมแดดถึงขั้นเสียชีวิตได้สำเร็จ จำเป็นต้องตุนล่วงหน้าและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีน้ำแข็งเพียงพอ รวมถึงตู้แช่แข็งที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้า
    • เตรียม “ถุงยังชีพ” ด้วยสิ่งของต่างๆ เช่น เกลือแร่ และแจกจ่ายให้กับประชาชนก่อนที่ความร้อนจะมาถึง
    • เป็นเวลาที่ดีที่จะลงทุนจ้างทีมบริการทางการแพทย์ผลิตวิดีโออธิบาย “ขั้นตอน” ในภาษาท้องถิ่น เพื่อจัดการเหตุฉุกเฉินจากอุณหภูมิกระเปาะเปียก และสัญญาณที่พึงระวัง
  29. สื่อ – ถึงเวลาที่จะเริ่มรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิกระเปาะเปียกหรือดัชนีความร้อน และให้ความรู้แก่ผู้อ่าน/ผู้ชมเกี่ยวกับความหมาย จำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างไม่ลดละเพื่อเพิ่มการตระหนักถึงความเสี่ยง รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญเต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะมีอุณหภูมิที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน สื่อจะต้องให้ข้อมูลที่ทันสมัย ​​การคาดการณ์ และการศึกษาเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับความร้อนรุนแรง และต้องจัดลำดับความสำคัญของข้อความนี้ ถึงเวลานำอุณหภูมิกระเปาะเปียกพร้อมหมวดหมู่อันตรายขึ้นหน้าแรกของสื่อทุกแหล่ง เรียนรู้แรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่ก้าวล้ำในวารสารศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศของฝรั่งเศส
  30. ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล – ใช้โปรไฟล์ของคุณเพื่อสื่อสิ่งที่ดีและมีบทบาทในการให้ความรู้แก่ผู้ชมและมีส่วนร่วมในการสนทนานี้ ในปัจจุบัน ใครก็ตามที่มีอิทธิพลสามารถเป็นนักการศึกษาได้
  31. ความเป็นผู้นำของรัฐบาล – รัฐบาลต้องเรียกพลเมืองของตนมารวมตัวกัน พูดอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่คาดหวัง โดยใช้คำพูดที่ชี้นำอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ เราต้องการให้ผู้นำรัฐบาลทุกคนจัดทำแผนที่สอดคล้องกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศกำลังสื่อสาร และเราจำเป็นต้องเริ่มปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้ เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วทั่วโลกทำให้ผู้นำต้องยอมจำนนต่อการตอบสนองหลังจากภัยพิบัติได้มาเยือนแล้ว และเราต้องเริ่มเตรียมพร้อมล่วงหน้าเพื่อรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ความโปร่งใสถือเป็นสิ่งสำคัญ การเปิดกว้างและการมีส่วนร่วมกับประชาชนก็เช่นกัน การทุจริตก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงและจัดการ รัฐบาลยังต้องทำงานข้ามพรมแดนเพื่อประโยชน์ของภูมิภาคและแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายที่ทำให้เกิดวิกฤติ (เช่น หมอกควัน) และลดเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะถ่านหิน ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ โปรดลงคะแนนให้ผู้นำที่จะจัดการกับวิกฤตการณ์หลายฝ่าย ผู้ที่ไม่เห็นด้วยจะทำลายคุณและครอบครัวของคุณ
  32. การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ – รัฐบาลจะต้องจัดทำแผนการสื่อสารระดับชาติ จัดทำระบบสำหรับการสื่อสารนี้เพื่อให้แน่ใจว่าจะเข้าถึงทุกคนที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา จัดทีมเพื่อดูแลจัดการเรื่องนี้ และเตรียมพร้อมก่อนจะถูกโจมตีฉุกเฉินในครั้งถัดไป การสื่อสารระดับชาติและระดับท้องถิ่นจะมีความสำคัญ
  33. ธุรกิจ – ทีมผู้นำระดับผู้บริหารจะต้องเริ่มมองความเป็นไปได้ทั้งหมดและเข้าใจถึงผลกระทบต่อธุรกิจของตน ไม่ใช่แค่ผลกำไรเท่านั้น ตัวอย่างเช่น:
    • หากคุณเป็นบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก อาจมีพนักงานหลายพันคนที่ได้รับผลกระทบจากความร้อนรุนแรง คุณจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร คุณจะเตรียมพวกเขาได้อย่างไร? คุณสามารถช่วยติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์หรือลมเพื่อให้ครอบครัวของพวกเขาปลอดภัยในช่วงเหตุการณ์ความร้อนจัดได้หรือไม่? คุณจะวางแนวปฏิบัติและความคาดหวังในการทำงานอะไรบ้าง? สื่อสารกันก่อน
    • ห่วงโซ่อุปทานของคุณปลอดภัยหรือไม่ หรือจะซบเซาอย่างที่เราเห็นในจีนเมื่อปี 2565 ผลกระทบของสิ่งนั้นคืออะไร? คุณจะเตรียมธุรกิจของคุณได้อย่างไร?
    • หากการท่องเที่ยวคือธุรกิจของคุณ และคลื่นความร้อนกำลังคร่าชีวิตผู้คน สิ่งนี้จะไม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังจุดหมายปลายทางของคุณ คุณเตรียมตัวอย่างไรสำหรับความร้อนนี้ และคุณทำอะไรให้กับพนักงานของคุณบ้าง? คุณวางแผนที่จะสื่อสารกับแขกของคุณอย่างไร? คุณกำลังจัดพื้นที่ทำความเย็นสำหรับคนทำงานกลางแจ้ง และทำให้พวกเขาอยู่รอดได้หรือไม่?
    • ในวงกว้างมากขึ้น สำหรับภาคกลางแจ้ง เช่น เกษตรกรรม การขนส่ง และการท่องเที่ยว ธุรกิจของคุณจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์นี้ในหลายระดับ เช่น การสูญเสียพืชผล ความแห้งแล้ง และอุณหภูมิที่ร้อนเกินกว่าที่พนักงานของคุณจะทำงานได้ คุณจะทำอย่างไรตอนนี้ เตรียมตัว? คุณสามารถวางโครงสร้างพื้นฐานอะไรได้บ้าง? คุณจะเปลี่ยนชั่วโมงทำงานเพื่อให้มีประสิทธิผลและปกป้องพนักงานของคุณให้ปลอดภัยได้อย่างไร?
    • สำหรับธุรกิจใดๆ ที่ต้องใช้แรงงานข้ามชาติหรือแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาต นี่เป็นเวลาสำหรับมนุษยชาติ ดูแลคนของคุณ จัดแคมป์คนงานเพื่อให้พวกเขามีโอกาสรอดชีวิต อย่าปล่อยให้ทำงานและอาศัยอยู่ในอุณหภูมิกระเปาะเปียก ไม่เช่นนั้นคนงานจะเสียชีวิต จัดหาอาหารและน้ำให้พร้อม ติดตั้งสถานีทำความเย็น และเปลี่ยนชั่วโมงการทำงาน
  34. ทุกสิ่ง ทุกที่ในคราวเดียว – แม้ว่าเราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมอย่างเร่งด่วนสำหรับความร้อนรุนแรง แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องจัดการกับการทำลายล้างของโลกธรรมชาติ และนั่นต้องใช้พลังงานและการลงทุนของเราเพื่อพลิกฟื้นการทำลายล้างที่เราเป็นต้นเหตุ ยิ่งทำให้ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศเลวร้ายลง และเหตุผลที่เราต้องรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วนี้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส หัวหน้าองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า เราต้องการทุกสิ่ง ทุกที่ในคราวเดียว ถึงเวลาแล้วที่ชุมชนของเราจะรวมตัวกันทุกที่ และหาวิธีฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่ให้ผืนดินที่เราเรียกว่าบ้าน ทำความสะอาด นำมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หยุดการขยายตัวของมนุษย์ จำกัดการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ ฯลฯ… ทั้งหมดนี้ในขณะเดียวกันก็เตรียมรับมือกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นและร้อนขึ้นในเวลาเดียวกัน ฝากไว้ให้คิด
    • การดำเนินการทุกที่เป็นสิ่งสำคัญ และถึงเวลาลงมือเพื่อดูว่าเราจะร่วมมือกับธรรมชาติเพื่อลดผลกระทบจากภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นได้หรือไม่ ในทางกลับกัน เพื่อจัดการกับอุณหภูมิกระเปาะเปียก เรามาสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ให้เร็วที่สุดกันเถอะ
    • ถ้าเราอยู่ริมทะเล จำเป็นต้องค้นหาเทคนิคที่ดีที่สุดเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพื่อประโยชน์อื่นๆ เช่น ทุ่งหญ้าทะเล ป่าชายเลน หอยนางรม การขยายสายพันธุ์ที่สำคัญ และอื่นๆ
    • บนพื้นดินมีทั้งต้นไม้ พืช สัตว์ และอื่นๆ ลองขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ในหมู่บ้านหรือชุมชนพื้นเมืองในท้องถิ่นในการคืนชุมชนของเราสู่ธรรมชาติทุกที่ และเราควรมองย้อนกลับไปอย่างน้อย 50 ปีเพื่อหาแรงบันดาลใจ
    • มาทำความสะอาดขยะและหาวิธีที่จะรับประกันสภาพแวดล้อมที่สะอาด (เพิกถอนการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั้งหมด การรวบรวมขยะอย่างมีประสิทธิภาพ การทำปุ๋ยหมัก ฯลฯ…) ขยะพลาสติกยังขวางท่อระบายน้ำและเพิ่มความเสี่ยงต่อน้ำท่วมอย่างมหาศาล จึงถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในการทำความสะอาดสภาพแวดล้อมของเรา
    • ทั่วทั้งซีกโลกใต้ ทางน้ำและที่ดินถูกขยะทับถม และขยะนี้ไม่ได้เป็นเพียงในประเทศเท่านั้น เนื่องจากประเทศตะวันตกขนถ่ายขยะไปยังภูมิภาคนี้มานานหลายทศวรรษ การกระทำเช่นนั้นจะต้องยุติลง มันเป็นการล่าอาณานิคมขยะพิษ
    • การสะสมของเสียทั้งหมดอย่างไม่สิ้นสุด รวมถึงการพัฒนาที่มากเกินไป การวางแผนที่ไม่ดี ฯลฯ หมายความว่าแหล่งน้ำทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ซีกโลกใต้ ล้วนมีมลพิษและไม่สามารถดื่มได้ ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ในโลกที่มุ่งหน้าสู่การขาดแคลนน้ำอย่างรวดเร็ว การจัดลำดับความสำคัญในการทำความสะอาดและฟื้นฟูทางน้ำจะต้องเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับทุกประเทศ

คุณจะเพิ่มอะไรไปในรายการด้านบนนี้อีก? โปรดช่วยฉันทำให้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่เกิดประโยชน์เพื่อให้บุคคล ชุมชน ธุรกิจ และรัฐบาลสามารถเตรียมตัวได้

และโปรดจัดการบ้านเพื่อให้ครอบครัวของคุณปลอดภัย ตรวจสอบชุมชนของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนเตรียมพร้อม จากนั้นมาร่วมกันตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้าน หรือเมืองของคุณสามารถรอดพ้นจากความร้อนรุนแรงได้โดยจัดระเบียบโครงสร้างพื้นฐานและหาทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่สามารถแก้ด้วยตนเองได้ สำหรับซีกโลกใต้ ถึงเวลาดำเนินการอย่างรวดเร็วและจัดมาตรการปรับตัวแล้ว เราได้รับคำเตือนจากซีกโลกเหนือแล้ว เรามาใส่ใจฟังคำเตือนกันดีกว่า

บทสรุป

นี่เป็นแบบที่สามและฉันจะพยายามแยกย่อยให้ข้อมูลสั้นลง สามารถนำไปปฏิบัติได้มากขึ้น หากคุณเต็มใจที่จะแปลสิ่งนี้เป็นภาษาท้องถิ่น โปรดติดต่อมา เพราะฉันจะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้นโดยส่งมอบสิ่งนี้ให้ไปอยู่ในมือของผู้ที่ต้องการ

ฉันอยากย้ำอีกครั้ง เราต้องวางแผนว่าจะช่วยเหลือคนที่ยากจนที่สุดในประเทศของเราอย่างไร และต้องทำตอนนี้ ไม่ใช่ทำหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว เราได้เห็นเรื่องราวอันน่าสยดสยองของความทรมานจากฝั่งซีกโลกเหนือ และประเทศเหล่านี้คือประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แค่ไม่ดีพอและเราไม่ควรยอมรับมัน แต่ในซีกโลกใต้ สถานการณ์แบบนี้มีคนเป็นล้าน!! เรียกร้องให้รัฐบาลของคุณเตรียมพร้อมทันที!

ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกไม่สามารถต้านทานอุณหภูมิที่ร้อนรุนแรงเช่นนี้ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงพยายามอย่างยิ่งที่จะสื่อสารวิธีแก้ปัญหา เพราะพวกเขาไม่สมควรได้เจอสิ่งนี้ ฉันอยากช่วยพวกเขา และฉันก็หวังว่าคุณจะช่วยเช่นกัน

มาร่วมดูแลกันและกัน และมาดูแลระบบนิเวศในโลกของเราด้วย เพราะถ้าสูญเสียสิ่งเหล่านี้ เราจะสูญเสียความสามารถในการดำรงชีวิต โปรดลงคะแนนเสียงให้กับผู้นำที่สามารถเผชิญกับวิกฤตนี้และสนับสนุนเพื่อให้พวกเขาประสบความสำเร็จ มันเป็นโลกที่แตกต่างและต้องการผู้นำคนใหม่ นอกจากนี้ยังต้องมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันสำหรับเราทุกคนและนั่นคือเป้าหมายของฉันในการก้าวไปข้างหน้า คอยติดตามนะคะ

ขอบคุณ

แอนเดรีย

2 thoughts on “34 ขั้นตอนในการเตรียมตัวเพื่อสภาวะอุณหภูมิสูงถึงระดับที่ไม่สามารถอยู่ได้”

  1. Pingback: 34 actions to prepare for a heat index that hits unliveable territory - The Digital Conversationalist

  2. Pingback: #158 Weekend reads – dark humour is perfectly respectable - The Digital Conversationalist

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.